วันที่ 8 ก.ค. 2565 คณะทำงานได้รับกล่าวว่า สำนักข่าวดังอย่าง ch3plus ได้แถลงการณ์ว่า จากในกรณีที่สวนทุเรียนภูเขาไฟแท้ซึ่งเป็นทุเรียน GI จากหมู่บ้านซำตารมย์ ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ออกล้นตลาดล็อตแรก 200 ตัน คุณกัญจณ์ สมาชิกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวมาว่า ผลจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ทุเรียนยืนต้นแก่กว่าธรรมดา บวกกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
รวมกับมีผู้ปลูกทุเรียนในไทยมากขึ้นมากมาย ทำให้คนเข้าไปซื้อลดน้อยลงอีกทั้งนักเดินทางที่ปกติจะขับรถเข้าไปที่สวน แล้วก็ร้านค้า ห้องอาหารที่ปกติจะรับซื้อมาขายต่อก็ขายได้ลดลง เนื่องจากว่าเพิ่งจะฟื้นจาก cv อย่างร้านอาหารย่านสุขุมวิท 101 ที่เคยรับมาขายต่อได้ถึง 20 ตัน แต่ว่าปีนี้ยังขายได้ไม่ถึง 10 ตัน แล้วก็มีทุเรียนสุกจัดเหลือมาก ทำให้จะต้องซื้อตู้แช่มาเพิ่มอีกถึง 2 ตู้ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นขนมหวานดังนี้ ทุเรียนภูเขาไฟ 200 ตัน ของเกษตรกรที่ออกมา
ทำให้จำใจต้องขายให้ล้งในราคาลดลงถึง 70% ด้วยราคาเฉลี่ย กก.ละ 80-100 บาทจากครั้งก่อนปริมาณทุเรียนนี้จะคิดเป็นราคามากถึง 25 ล้านบาท แต่ว่าเมื่อจำเป็นต้องขายล้งได้แค่เพียง 10 ล้านบาทเศษเพียงแค่นั้น โดยราคาธรรมดาขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 170-180 บาท ถ้าหากล้งซื้อเหมาสวนแล้วก็ตัดขายเอง จะขายเพียงแค่กิโลกรัมละ 80 บาทแต่ว่าถ้าหากคัดลูกแล้วก็เกษตรกรตัดให้ ก็จะขายกิโลกรัมละ 100 บาท
ในขณะที่ทุเรียนชนิดนี้เคยเป็นทุเรียนขึ้นห้างกิโลกรัมสูงสุดถึง 800 บาทดังนี้มีทุเรียนภูเขาไฟ GI ล็อต 2 ที่จะออกมาอีกโดยประมาณ 15 ตัน ซึ่งตนกังวลว่าจะขายไม่ได้อีก ก็เลยอยากที่จะให้ร้านค้าหรือผู้ซื้อช่วยเหลือกันซื้อหาเพื่อช่วยเกษตรกรทุเรียนภูเขาไฟ โดยสามารถซื้อตรงกับเกษตรกรในพื้นที่ หมู่บ้านซำตารมย์ หรือผ่านร้านค้าที่รับซื้อต่อเพื่อช่วยระบายสินค้า และก็เพื่ออาจอัตลักษณ์ของทุเรียนภูเขาไฟไทย
รายละเอียดเพิ่มเติมจาก เรื่องเล่าเช้านี้
