7 เรื่องราวของ แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์

แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชายของผู้ว่ากทมคนที่ 17 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นแก้วตาดวงใจ ถึงขนาดที่ว่ายอมลางานเหมือนไม่ได้ลา บินลัดฟ้าไปสหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานรับปริญญาลูกชาย ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อและเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้พ่อแข็งแกร่งทที่สุดในปฐพี

เรื่องที่ 1 แสนดี หรือ แสนปิติ สิทธิพันธุ์ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ คุณแม่ ปิยดา สิทธิพันธุ์ เกิดเมื่อปี 2543 ปัจจุบันอายุ 21 ย่างเข้า 22

เรื่องที่ 2 เป็นที่ทราบกันดีว่าน้องแสนดี เป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน ต้ั้งแต่ 2 ขวบ หลังจากผลตรวจวินิจชัย เลยเป็นจุดเปลี่ยนให้คุณพ่อคนนี้ต้องมุ่งมั่นเพื่อที่จะรักษาลูกให้หายเป็นปกติ ศึกษาหาข้อมูล ก่อนตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อพาน้องแสนดีไปรักษาที่ออสเตเรีย

ขณะที่ว่าคุณพ่อยอมสอบชิงทุนวิจัย เข้าร่วมกับโปรแกรมฝึกออกเสียง ในตอนแรกจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยฟังแต่อาจจะมีปัญหาในการใช้งานเพราะว่าตอนนั้นยังเด็ก จนในที่สุดก็ได้ตัดสินใจผ่าตัดฝั่งอุปกรณ์

หลังจากความพยามของคุณพ่อที่พยายามพูดคุยฝึกสอน เลยทำให้เขาอยากที่จะมุ่งมั่นตาม แม้ว่าจะมีท้อ ในบางครั้งก็แอบคิดว่าต้องรับให้ได้กับสิ่งที่เป็น แต่ก็มีพ่อแม่เป็นแบบอย่างคอยให้กำลังใจ

เรื่องที่ 3 ฝึกพูดภาษาอังกฤตั้งแต่เด็ก โดยคุณพ่อเคยให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากกาผ่าตัดของลูกชาย ตอนนั้นเครื่องไม่สามารถรับเสียงวรรณยุกติหรือแยกเสียงต่ำเสียงสูง คุณพ่อเลยเลือกให้แสนดี ฝึกพูดภาษาอังกฤษ คือการออกเสียงแบบ 6 พยางค์ และค่อยๆปรับ จนกระทั่งตอน 5-6 ขวบก็สามารถพูดได้และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เรื่องที่ 4 เป็นคนที่แอคทีฟสูง ชื่นชอบกีฬา และการออกกกำลังกาย โดยเฉพาะ มวยไทย kick boxing รวมไปถึงการว่ายน้ำและออกกำลังกายที่ยิม และเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฟุตบอล รักบี้ คริกเก็ต ฟอร์มูลาวัน บาสเก็ตบอล เบสบอล เทนนิส กอล์ฟ ศิลปะการต่อสู้แบบผสม รวมไปถึง ก็อเมริกันฟุตบอล ขณะในสมัยตอนเรียนอยู่อเมริกาก็บยังชอบไปปีนเขาอีกด้วย

เรื่องที่ 5 ในยามว่าง เขามีงานอดิเรกสบายๆ โดยเขาเคยบอกว่าถ้าหากไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับกีฬา ก็มักจะหาอะไรทำว่างๆ อย่างเช่น เขียนหนังสือถ่ายภาพ อ่านหนังสือ สะสมหุ่นเล็กๆ เล่นวีดีโอเกม รวามไปถึงทำบล็อกต่างๆ

เรื่องที่ 6 เป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ จบการศึกษา ด้านประวัติศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในวัยเพียงแค่ 22 ส่วนสาเหตุที่เลือกวิชานี้ เพราะดั่งเดิมเป็นคนชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก และสิ่งที่ชอบมากทีสสุดในการเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ได้อยู่ที่ลักษณะหรือสภาพแวดล้อมของประวัติศาสตร์มนุษย์ แต่เป็นการทำความเข้าใจความซับซ้อนและแรงจูงใจของผู้คนในช่วงเวลาต่างๆ

เรื่องที่ 7 ยกให้คุณพ่อเป็นไอดอลและแบบอย่าง มองว่าคุณเหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่คอยอยู่ข้างๆ ที่สู้ไปกับเขาในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่เคยยอมแพ้แม้ในวันที่ลำบาก ก็มีพ่อเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้ยังมี โคบี ไบรอันต์ อดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังเป็นไอดอลนอกจากคุณพ่ออีกด้วย

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น