เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (21 มิ.ย. 2565) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) หลิ่นฟา ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณเมืองอัตตะปือ ประเทศลาว แล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่22-23 มิ.ย. 2565 มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือขนาดเล็กงดการเดินเรือ
อนึ่ง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในระยะต่อไป คาดว่า จะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำในช่วงวันที่22-23 มิ.ย. 2565
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่21มิ.ย. 2565 เวลา 04.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้
ด้านสมาคมดาราศาสตร์ไทย ได้พยากรณ์สภาพอากาศ จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565) พบว่า ต้องจับตาพายุ 3 ลูก ซึ่งจะพาร่องฝนพาดผ่านประเทศไทยยาวๆ 1 สัปดาห์ คือ
1. พายุหลิ่นฟา (Linfa) ส่งผลกระทบในวันที่ 22-23 มิ.ย. 2565
2. พายุลูกที่ 2 (คาดว่าชื่อ นังกา Nangka) กำลังก่อตัวในทะเลจีนใต้ ส่งผลกระทบในวันที่ 22-23 มิ.ย. 2565
3. พายุลูกที่ 3 น่าจะแรงที่สุด (คาดว่าชื่อ โซเดล Saudel) กำลังก่อตัวใกล้ฟิลิปปินส์ ส่งผลกระทบในวันที่22-23 มิ.ย. 2565
คาดการณ์ปริมาณฝนตก (22-23 มิ.ย. 2565)
ภาคเหนือ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ภาคกลาง ร้อยละ 80 ของพื้นที่
ภาคตะวันออก ร้อยละ 80 ของพื้นที่
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ร้อยละ 80 ของพื้นที่
กรุงเทพและปริมณฑล ร้อยละ 80 ของพื้นที่